เมื่อเราพูดถึงประเทศในทวีปยุโรป นอร์เวย์ คงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันที่ใครหลายคนอยากเดินทางไปสักครั้ง เพราะที่ประเทศนี้มีทั้งความสวยงามทางธรรมชาติหลากหลายแห่ง และยังเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ทำระหว่างการท่องเที่ยวนอร์เวย์ เพื่อลองสัมผัสกับประสบการณ์สุดแปลกใหม่ที่เราอาจไม่เคยเจอมาก่อน
ในบทความนี้ Rent a Coat จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเทศนอร์เวย์มากขึ้น ทั้งข้อควรรู้ก่อนจองตั๋วและจุดเช็กอินที่ต้องไป เพื่อทำให้การเที่ยวนอร์เวย์ของคุณสนุกและน่าตื่นเต้นกว่าที่เคยเป็น !
10 เรื่องน่ารู้ก่อนตัดสินใจตีตั๋วเที่ยวนอร์เวย์
ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ การเตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทางและหาข้อมูล คือ Checklist สำคัญที่คุณต้องทำในทุก ๆ ทริป เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถเที่ยวนอร์เวย์ได้ราบรื่นมากขึ้นนั่นเอง
1. สถานที่ตั้ง ภูมิประเทศ
นอร์เวย์ (Norway) หรือ ราชอาณาจักรนอร์เวย์ คือหนึ่งในประเทศในแถบทวีปยุโรปเหนือ หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อ สแกนดิเนเวีย เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือ ทำให้สามารถพบเห็น พระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาเที่ยวนอร์เวย์
2. ภาษาราชการ
ประเทศนอร์เวย์ มีภาษาราชการคือ ภาษานอร์เวย์ แต่ประชากรในประเทศก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นการไปเที่ยวนอร์เวย์ จึงมีความสะดวกสบายด้านภาษาไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป
3. การขอวีซ่า
การขอวีซ่ามี 2 ประเภท คือ
- วีซ่าระยะสั้น พำนักได้ไม่เกิน 90 วัน ใช้สำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ เยี่ยมเยียน และท่องเที่ยวนอร์เวย์
- วีซ่าระยะยาว พำนักได้มากกว่า 90 วัน ใช้สำหรับการเรียนหลักสูตรระยะยาว และการพำนักระยะยาว
โดยค่าธรรมเนียมการขอวีซ่ามีราคาตั้งแต่ 0-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ขอวีซ่า
4. ค่าเงิน
เพราะประเทศนอร์เวย์ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสหภาพยุโรป จึงมีสกุลเงินเป็นของตนเองคือ โครนนอร์เวย์ (NOK) โดย1 NOK มีค่าประมาณ 3-5 บาทไทย ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา
5. สภาพอากาศและฤดูกาล
ถ้าหากคุณอยากรู้ว่า ไปเที่ยวนอร์เวย์ช่องไหนดี ฤดูกาลของประเทศนอร์เวย์ แบ่งเป็น 4 ช่วง ซึ่งมีอากาศที่แตกต่างกันดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 1-16 องศาเซลเซียส
- ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 17-28 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน – ตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 0-18 องศาเซลเซียส
- ฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 0 ถึง -27 องศาเซลเซียส
ดังนั้นคุณจึงควรเลือกแต่งตัว ให้เหมาะกับสภาพอากาศในแต่ละช่วง เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นและท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ
6. เวลา (Time Zone)
โดยปกแล้ว เวลาประเทศนอร์เวย์จะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง แต่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึง ปลายเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) เวลาจะช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง
7. วิธีเดินทางไปนอร์เวย์
ที่ประเทศนอร์เวย์ มีสนามบินนานาชาติ หลายแห่ง แต่มี 5 แห่งที่ได้รับความนิยม คือ
- สนามบินออสโล (Oslo Airport)
- สนามบินทรอมโซ (Tromso Airport)
- สนามบินโบโด (Bodø Airport)
- สนามบินทรอนด์เฮม (Trondheim Airport)
- สนามบินเบอร์เกน (Bergen Airport)
คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวนอร์เวย์ได้ทั้งรูปแบบบินตรง ซึ่งให้บริการในสายการบินไทย (Thai Airways) และนอร์วีเจียนแอร์ (Norwegian Air) ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ หรือคุณสามารถเลือกเดินทางต่อเครื่อง 1 จุกพัก ซึ่งให้บริการโดยสายการบินอื่น ๆ โดยใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 13 ชั่วโมง 55 นาที
8. เดินทางในประเทศ
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวประเทศนอร์เวย์โดยการขับขี่รถยนต์ส่วนตัว คุณต้องฝึกฝนการบังคับทิศทางพวงมาลัยซ้าย และอย่าลืมทำใบขับขี่สากลไปด้วย เพื่อจองรถเช่าในประเทศนอร์เวย์
ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะเราอยากแนะนำให้คุณเดินทางด้วยรถไฟ โดยใช้บัตร Eurail Norway Pass ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเดินทางเที่ยวนอร์เวย์ได้อย่างง่ายดาย
9. อาหาร
อาหารในประเทศนอร์เวย์ส่วนใหญ่ มักเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่าง เมนูปลา หรือขนมปังสีน้ำตาลซึ่งไม่ผ่านการฟอกขาว โดยอาหารประจำชาติของนอร์เวย์ที่คุณต้องลองชิมเมื่อไปเที่ยวคือ เลฟซ่า แผ่นมันฝรั่งบดที่มีลักษณะคล้ายโรตี เสิร์ฟคู่กับผัก ไส้กรอก หรือเครื่องเคียงต่าง ๆ
10. กิจกรรม
ในประเทศนอร์เวย์มีอาหารหนาวเย็น เราจึงสามารถเลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างเที่ยวนอร์เวย์ได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะ 3 กิจกรรมนี้
- ล่าแสงเหนือ เราสามารถเลือกสถานที่ล่าแสงเหนือได้หลากหลายจุด โดยมักเกิดในเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
- พักโรงแรมน้ำแข็ง ที่ทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำแข็ง และคุณต้องนอนในถุงนอนที่ปูบนเตียงน้ำแข็ง
- ลากเลื่อนสุนัขฮัสกี้ ท่ามกลางหิมะขาวโพลน ด้วยความเร็วสูงน่าตื่นเต้น
เสพธรรมชาติอันสวยงาม ณ 8 ที่เที่ยวนอร์เวย์ บรรยากาศดี เมืองสงบ
นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวประเทศนอร์เวย์ที่เราคุณเตรียม เสื้อโค้ทกันหนาว สวย ๆ ไปถ่ายรูปและเก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ในใจทั้งหมด 8 แห่ง
เมือง Oslo
ออสโล (Oslo) คือเมืองหลวงและที่เที่ยวนอร์เวย์อันสวยงาม และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในการเดินเล่นในเมืองแห่งนี้ คุณจะได้เห็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่และตึกรามบ้านช่องทันสมัยที่เข้ากันอย่างลงตัว
ที่เมือง Oslo ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันสวยงาม จนได้รับการขนานนามว่า ‘ปอดของทวีปยุโรป’ และยังเป็นที่ตั้งของ Oslo Gardermoen Airport สนามบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดอีกด้วย
เมือง Bergen
เมือง เบอร์เกน (Bergen) ที่เที่ยวนอร์เวย์ที่คุณควรมาเยือน เพราะเมืองแห่งนี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 9 เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป ด้วยวิวทิวทัศน์ที่รอบล้อมไปด้วยภูเขาน้ำแข็งสุดอลังการ และมีบ้านเมืองที่ถูกออกแบบในสไตล์นอร์ดิก เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่หาดูที่ไหนไม่ได้จริง ๆ
ซึ่งในเมือง Bergen ก็มีกิจกรรมให้คุณทำมากมาย ทั้งเวิร์กชอปศิลปะ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ซื้อของที่ระลึก หรือการนั่งกระเช้าสูงไปชมเมืองบนภูเขา Mount Ulriken
เมือง Tromso
เราเชื่อกว่า ทรอมโซ (Tromso) คือหนึ่งในชื่อเมืองประเทศนอร์เวย์ที่ไม่ว่าใครที่ได้ก็ต้องรู้จัก เพราะที่นี่คือเมืองที่ตั้งอยู่ตรงทางเหนือของ Arctic Circle ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศนอร์เวย์ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกเข้ามาเพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของประเทศอย่าง แสงเหนือและพระอาทิตย์เที่ยงคืน
นอกจากนี้เมือง Tromso ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมายให้เราได้ไป ไม่ว่าจะเป็น หุบเขา Tromsdalen valley สวนพฤกษศาสตร์อัลไพน์ (Tromso Arctic-Alpine) หรือศูนย์วิทยาศาสตร์อาร์กติก
หมู่บ้าน Flåm
ฟลัม (Flåm) หมู่บ้านขนาดเล็ก ท่ามกลางหุบเขาของประเทศนอร์เวย์ ที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 500 คนเท่านั้น โดยเสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้คือ ตำแหน่งที่ตั้งที่รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งภูเขา แม่น้ำ และน้ำตก ชวนให้เราตกหลุมรัก
และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องทำเมื่อมาเที่ยวที่นี่คือ การชมวิวหมู่บ้านจากเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลกอย่าง Flåm Railway เพื่อเสพบรรยากาศอันสวยงาม
ฟยอร์ด The Geirangerfjord
กิจกรรมแบบสบาย ๆ อย่างการล่องเรือบนแม่น้ำเพื่อชมวิว The Geirangerfjord หนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติอันสวยงามของประเทศที่ถ้าหากว่าใครมาเที่ยวนอร์เวย์ก็ต้องไป ซึ่งที่นี่มีหนึ่งจุดเช็กอินยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องไปถ่ายรูปอย่างน้ำตก Seven Sisters Waterfalls ซึ่งมีความสูงกว่า 250 เมตร
บนยอดของ The Geirangerfjord ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้คุณได้ทำตลอดปี ทั้งการ ล่องแพ พายเรือคายัค-เรือแคนู ตกปลา ในฤดูร้อน หรือการเล่นสกี และสโนบอร์ด ในช่วงหน้าหนาว
โบสถ์ Urnes Stave Church
Urnes Stave Church คือโบสถ์ไม้โบราณมรดกโลก ที่เที่ยวนอร์เวย์ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ซึ่งถูกออกแบบในสไตล์สแกนดิเนเวียร์แบบดั้งเดิม คือมีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเซลติก (Celtic Art) ไวกิ้ง (Viking Traditions) และโครงสร้างของโรมานเนสก์ (Romanesque)
ซึ่งด้วยทัศนียภาพของโบสถ์และวิวที่ล้อมรอบไปด้วยฟยอร์ดและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ ทำให้ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวนอร์เวย์ที่หลายคนมากัน
หมู่เกาะ Lofoten
Lofoten หมู่เกาะซึ่งตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ อีกหนึ่งที่เที่ยวนอร์เวย์แลนด์มาร์กอันโด่งดังของประเทศที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งนับเป็นอาชีพหลักของประชากรที่นี่ โดยเฉพาะหมู่บ้านไรเนอ (Reine) หนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุดของนอร์เวย์
ซึ่งเมื่อคุณได้เดินทางไปเที่ยวที่หมู่เกาะเหล่านี้ คุณก็จะพบกับบรรยากาศที่แสนเรียบง่าย เงียบสงบ และสวยงาม ของบ้านที่ตั้งอยู่เรียงรายบนเกาะต่าง ๆ
หมู่เกาะ Svalbard
ที่เที่ยวนอร์เวย์ซึ่งเหมาะกับนักเดินทางผู้ชื่นชอบการผจญภัยและความหนาวเย็น ก็คงจะหนีไม่พ้นหมู่เกาะ Svalbard เกาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยที่มีมหาสมุทรอาร์กติกเป็นแนวกั้น และที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 3,000 คนเท่านั้น เรียกได้ว่าเงียบสงบสุด ๆ
พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของเกาะจะเป็นพื้นที่เรียบกว้าง เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัยของหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หมีขั้วโลก กวาง Svalbard หมาจิ้งจอก หรือสิงโตทะเล
สรุป
นอร์เวย์นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าเดินทางไปอยู่ไม่น้อย เพราะที่ประเทศแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวประเทศนอร์เวย์มากมาย และเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติอันสวยงามอีกด้วย ซึ่งนอกจากนอร์เวย์แล้ว โลกของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอื่น ๆ ที่น่าไปในฤดูหนาว ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ หรืออื่น ๆ
การท่องเที่ยวในประเทศที่มีอากาศหนาว สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรตระเตรียมให้พร้อม คือการสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมเพื่อเผชิญกับอากาศหนาว แล้วคุณจะสามารถท่องเที่ยวได้สนุกขึ้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่ต้องการเสื้อกันหนาวคุณภาพ Rent a Coat ร้านเช่าเสื้อกันหนาว ที่มีเสื้อผ้าและอุปกรณ์หน้าหนาวให้คุณได้เลือก พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยแนะนำการแต่งตัวในอากาศหนาว และบริการซักชุดให้เหมือนใหม่โดยทีมงานมืออาชีพ