การจัดกระเป๋าเดินทาง คือขั้นตอนสำคัญที่เราต้องตระเตรียมก่อนเริ่มการเดินทางไปท่องเที่ยวยังส่วนต่าง ๆ ของโลก แต่หนึ่งในปัญหาของการจัดกระเป๋าเดินทาง ที่เราสามารถพบได้เป็นประจำคงหนีไม่พ้น การที่เรามีสิ่งของเยอะเกินไป จนนำไปใส่ในกระเป๋าได้ไม่เพียงพอ หรือทำให้เสื้อผ้าบางตัวยับจากการยัดสิ่งของต่าง ๆ ลงไป โดยเฉพาะการเที่ยวประเทศอากาศหนาว ที่เราต้องสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหนา กินพื้นที่ไปมาก
สำหรับบางคนที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินหรือขึ้นไปบ่อยก็อาจจะไม่แน่ใจว่า มีข้อห้ามอะไรบ้างในการเอาของขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นในบทความนี้เราขอพาไปไขคำตอบเกี่ยวกับการจัดกระเป๋าเดินทางให้เพียงพอและพร้อมสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถนำไปขึ้นเครื่องได้
9 วิธีจัดกระเป๋าเดินทางง่าย ๆ ประหยัดพื้นที่ ใส่ของได้เยอะ
การจัดกระเป๋าเดินทาง ฟังดูแล้วอาจเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะยิ่งเรามีของเยอะมากเท่าไร การจัดระเบียบกระเป๋าเดินทางก็วุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น และนี่คือมีเทคนิควิธีจัดกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแบบง่าย ๆ ที่จะทำให้พื้นที่ของเราเพิ่มขึ้น
1. วางแผนการใส่เสื้อผ้าในแต่ละวัน
ก่อนเริ่มต้นจัดกระเป๋าเดินทาง สิ่งที่คุณควรเริ่มทำมากที่สุดคือ การวางแผนเสื้อผ้าที่จะใส่ในแต่ละวัน เพราะถ้าคุณไม่คำนวนเสื้อผ้าแต่ละวันให้ดี อาจทำให้เสื้อผ้าที่คุณใส่ในกระเป๋าเดินทางมีมากเกินความจำเป็น
โดยเคล็ดลับการวางแผนจัดกระเป๋าเดินทางง่าย ๆ คือควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถใส่ซ้ำได้ เช่น กางเกงยีน เสื้อโค้ทกันหนาว ที่ไม่เลอะเทอะมากเท่าไรนัก และเราควรเลือกเสื้อผ้าสีเข้มหรือสีพื้นเป็นหลัก เพื่อให้สามารถจับคู่เสื้อผ้าแต่ละตัวได้ง่ายขึ้น
2. วางแผนการใส่เสื้อผ้าในแต่ละวัน
ข้อดีของการทำ Checklist การจัดกระเป๋าเดินทางคือ เพื่อช่วยให้เราเลือกสิ่งของได้อย่างเหมาะสม และรู้ถึงปริมาณสิ่งของที่นำไป ว่ามากหรือน้อยเกินไปหรือไม่ช่วยให้เราสามารถเลือกรูปแบบและขนาดกระเป๋าที่เหมาะสมกับสิ่งของของเรา เช่น กระเป๋าที่สามารถขยายได้ หรือใส่กระเป๋าพอะลูมิเนียมสำหรับใส่สิ่งของที่แตกได้ง่าย
อีกทั้งยังเมื่อถึงเวลาเก็บของใส่กระเป๋าจริง ๆ เราก็สามารถใช้รายการสำหรับจัดกระเป๋าเดินทางส่วนนี้ช่วยจัด และป้องกันการตกหล่น หรือลืมอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ ได้อีกด้วย
3. เลือกกระเป๋าให้ถูกขนาด
การเตรียมกระเป๋าเดินทางถูกขนาดสำหรับการเดินทางในระยะเวลาที่แตกต่างกัน จะทำให้เราไม่จำเป็นต้องยัดสิ่งของแน่นเกินไปจนส่งผลให้เสื้อผ้ายับ หรือเสียหาย โดยเราควรเลือกขนาดกระเป๋าเผื่อสำหรับการซื้อของฝากกลับไป และนี่คือขนาดกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมของระยะเวลาการเดินทางแต่ละวันที่คุณควรรู้
- กระเป๋าขนาด 18-20 นิ้ว เหมาะกับการถือขึ้นเครื่อง หรือเดินทางไม่เกิน 1-3 วัน
- กระเป๋าขนาด 24 นิ้ว เหมาะกับการเดินทางเป็นระยะเวลา 4-6 วัน
- กระเป๋าขนาด 28 นิ้วขึ้นไป เหมาะกับการเดินทางเป็นระยะเวลา 7-10 วัน
แต่การจัดกระเป๋าในแต่ละฤดูอาจมีจำนวนและความหนาที่แตกต่างกัน ดังนั้นนี่เป็นเพียงแนวทางที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้
4. เลือกใช้กระเป๋าผ้าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
ถึงแม้ว่ากระเป๋าเดินทางที่มีความแข็งแรงจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเสื้อผ้าด้านในกระเป๋าได้ แต่กระเป๋าเดินทางประเภทนี้มีข้อเสียคือ ความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับกระเป๋าเดินทางแบบอื่น ๆ
ดังนั้นถ้าหากคุณจัดกระเป๋าเดินทางที่มีแต่เสื้อผ้าหรือของไม่แตกหักง่าย การใช้กระเป๋าเดินทางจากผ้า ก็จะช่วยให้คุณเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางได้เยอะขึ้น แต่คุณอาจจำเป็นต้องระวัง เรื่องการใส่ของมีค่าในกระเป๋า เพราะกระเป๋ารูปแบบนี้มีโอกาสถูกกรีดและขโมยได้ง่ายนั่นเอง
5. ใช้วิธีการม้วนแทนการพับเสื้อผ้า
ข้อดีของการม้วนเสื้อผ้าคือ ทำให้เสื้อผ้ายับน้อยกว่าการพับ และยังช่วยประหยัดพื้นที่ภายในกระเป๋าเดินทางได้เป็นอย่างดี โดยเคล็ดลับวิธีพับผ้าใส่กระเป๋าเดินทางไม่ให้ยับ คือ เราต้องวางเสื้อผ้าบนพื้นเรียบ หลังจากนั้นจึงพับด้านซ้าย ขวา และแขนเสื้อเข้าตรงกลาง จนกลางเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และค่อย ๆ ม้วนคอเสื้อลงมาพร้อมกดผ้าให้แน่นจนสุดปลายเสื้อ
6. ใช้ถุงสุญญากาศ
การใช้ถุงสุญญากาศหรือถุงซิปล็อก คืออีกหนึ่งวิธีจัดกระเป๋าเดินทางอย่างชาญฉลาด เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราสามารถไล่อากาศซึ่งเป็นพื้นที่ว่างระหว่างผ้าที่แทรกอยู่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเที่ยวต่างประเทศ ที่มีอากาศหนาวเย็นจนเราต้องใส่เสื้อขนาดใหญ่ เช่น เสื้อขนเฟอร์ เสื้อโค้ทยาว หรือเสื้อกันหนาว
เทคนิคที่จะทำให้เราสามารถจัดกระเป๋าเดินทางได้โดยใช้พื้นที่น้อยลงคือ วางเสื้อผ้าให้เรียบแบนมากที่สุดแล้วใช้เครื่องรีดอากาศออก ก็จะทำให้เสื้อผ้าแต่ละตัวแบนลงอย่างเห็นได้ชัด
7. ซ้อนเสื้อชั้นในผู้หญิง
เสื้อชั้นในของผู้หญิง คือชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่มีส่วนเว้าโค้งค่อนข้างมาก ทำให้การจัดกระเป๋าเดินทางทำได้ยากขึ้น เพราะอาจกินพื้นที่มากกว่าเสื้อผ้าส่วนอื่น ๆ ดังนั้นการซ้อนเสื้อชั้นในจึงช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ภายในกระเป๋าเดินทางได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันเสื้อในและฟองน้ำไม่ให้เสียหายและไม่เสียทรงอีกด้วย
8. จัดหมวดหมู่ของและใส่กระเป๋าใบเล็ก
จัดหมวดหมู่ของและใส่กระเป๋าใบเล็ก แต่ละใบมีข้อดีคือ ทำให้เราสามารถค้นหาสิ่งของในกระเป๋าเดินได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และเมื่อเราใส่สิ่งของลงในกระเป๋าที่มีทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกระเป๋าเดินทางก็ยิ่งช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบกระเป๋าเดินทางได้ง่าย โดยอุปกรณ์ที่เราอยากแนะนำให้ใส่ลงในกระเป๋าใบเล็ก เช่น เครื่องอาบน้ำ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า และชุดชั้นใน
9. ใส่ของชิ้นเล็กในพื้นที่ว่าง
เนื่องจากเสื้อผ้าแต่ละตัวอาจมีขนาดที่ไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อเราจัดวางลงในกระเป๋าเดินทางก็อาจทำให้มีพื้นที่ว่างขนาดเล็กได้ ดังนั้นถ้าคุณมีของชิ้นเล็ก ๆ เช่น ถุงเท้า ขวดโลชั่น ไฟฉาย ถุงมือ และอื่น ๆ อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเทคนิคการจัดกระเป๋าเดินทางเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ การใส่สิ่งของเหล่านี้ลงไปในพื้นที่ว่างขนาดเล็ก เพื่อเติมเต็มกระเป๋าและป้องกันไม่ให้ของอื่น ๆ ขยับและเสียหาย
ของแบบนี้ จัดกระเป๋าเดินทางใบไหนดี ?
สำหรับบางคน ที่ไม่เคยขึ้นเครื่อง หรือขึ้นเครื่องไม่บ่อย อาจสับสนว่าสิ่งของแต่ละอย่างนอกจากเสื้อผ้าควรโหลดใต้เครื่องหรือถือขึ้นเครื่องได้ จนส่งผลให้ไม่สามารถจัดกระเป๋าเดินทางได้ และนี่คือตัวอย่างสิ่งที่ของที่ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าควรถือขึ้นเครื่อง หรือโหลดลงไปกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คือสิ่งของที่ห้ามโหลดลงใต้ท้องเครื่อง เพราะนับเป็นของที่อาจทำให้เกิดการระเบิดระหว่างบินได้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งของมีค่า ที่การโหลดใต้เครื่องอาจถูกขโมยง่ายกว่า
ของเหลว เจล หรือสเปรย์
สำหรับของ เหลว เจล หรือสเปรย์ ถ้าต้องการคุณต้องการจัดกระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่อง ของเหลวชนิดนั้นต้องมีปริมาตรไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตรต่อ 1 บรรจุภัณฑ์ และในส่วนของการถือขึ้นเครื่องของเหลวแต่ละชิ้นต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร เป็นจำนวนไม่เกิน 10 ชิ้น และต้องมีการปิดอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะ
แต่สำหรับใครที่มีเด็กขึ้นเครื่องบินได้ด้วย หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้ยา สายการบินอนุญาตให้นำอาหารเด็ก และนมผงถือขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องมีใบกำกับและอยู่ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป
ก๊าซ ดอกไม้ไฟ หรือระเบิด
ก๊าซ ดอกไม้ไฟ หรือระเบิด เป็นวัตถุที่ห้ามนำขึ้นเครื่องทั้งในรูปแบบถือติดตัวและโหลดลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเป็นสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ และถ้าหากางสายการบินพบว่า คุณมีการจัดกระเป๋าเดินทางนำสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่อง อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายการบิน
อาวุธและของมีคม
อาวุธและของมีคม เช่น มีดพก สนับมือ ดาบ กระบอง คัตเตอร์ หรือกรรไกร คือสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องในทุกกรณี แต่ในบางสายการบิน ของมีคมที่มีความจำเป็นในการเดินทาง เช่น กรรไกรตัดเล็บ หรือมีดโกนหนวด คุณสามารถจัดกระเป๋าเดินทางและโหลดใต้ท้องเครื่องได้
ยาเสพติด สารอันตราย
ยาเสพติด และสารอันตราย เช่น สารเสพติด กัมมันตรังสี สารเคมี น้ำกรด ปรอท ไนโตรเจนเหลว สารพิษ และยาฆ่าแมลง คือสิ่งของที่คุณห้ามนำขึ้นเครื่องและโหลดใต้ท้องเครื่องบินเป็นอันเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ และยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในบางประเทศอีกด้วย
สัตว์ดุร้ายหรือมีพิษ
สัตว์ดุร้ายหรือมีพิษ เช่น งูพิษ แมงมุมพิษ หรือแมลงมีพิษ ผู้โดยสารห้ามถือติดตัวขึ้นเครื่องเด็ดขาดในทุกกรณี เพราะอาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกและเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้อื่นได้ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงทั่วไป บางสายการบินอนุญาตให้นำน้องสุนัขและแมวโหลดใต้เครื่องได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอนและมีเอกสารครบถ้วน โดยมีรายละเอียด เช่น
- อายุ 2 เดือนขึ้นไป ไม่ตั้งครรภ์
- น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
- ติดต่อเพื่อแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า และเช็กอินในเวลาที่กำหนด
- งดให้อาหารก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- มีใบตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ พร้อมรายละเอียดของสัตว์เลี้ยง
- ยื่นสำเนาหนังสือเดินทางของเจ้าของ
- สำเนาบัตรประจำตัวผู้ดำเนินพิธีการส่งออก
- สำเนาใบรับรองการฉีดวัคซีน และการทดสอบโรค
- ตรวจสุขภาพสัตว์ก่อนการเดินทางไม่เกิน 2-3 วัน
- กรงมีขนาดมาตรฐานและกว้างมากพอที่สัตว์เลี้ยงสามารถ ยืน นั่ง นอน และพลิกตัวได้
- ประตูกรงมีความแน่นหนา และแข็งแรง
- ติดคำอธิบายสำหรับการให้อาหารอย่างชัดเจน
- ติดชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ ของเจ้าของอย่างชัดเจน
- ใส่สัตว์เลี้ยง 1 ตัว ต่อ 1 กรงเท่านั้น
ของมีค่า
ของมีค่า ไม่ควรพกไปขึ้นเครื่องและโหลดใต้เครื่อง เพราะอาจสูญหายได้ และในบางสายการบินห้ามนำสิ่งเหล่านี้ขึ้นเครื่องงไม่ว่ากรณีใดก็ตาม แต่ถ้าหากว่าคุณอยากนำสิ่งของมีค่าไป จำเป็นต้องถือขึ้นเครื่องเท่านั้น เพราะการใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องอาจเสี่ยงถูกขโมยได้มากกว่า
เนื้อสัตว์ และอาหารมีกลิ่น
เนื้อสัตว์ และอาหารมีกลิ่น คือสิ่งที่ห้ามนำขึ้นเครื่องและโหลดใต้เครื่องบินเป็นอันเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดเน่าเสียระหว่างทาง และส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น แต่สำหรับสายการบินอนุญาต คุณจำเป็นต้องมีการปิดผนึกอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นที่ออกมา
สรุป
การจัดกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศอาจไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เราเคยคิด เพียงแค่คุณมีวิธีการจัดกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมกับเสื้อผ้าแต่ละรูปแบบก็จะทำให้กระเป๋ามีเพื้นที่เหลือเยอะขึ้น นอกจากนี้ การจัดเตรียมเสื้อผ้าในปริมาณที่พอดี และเลือกชุดที่เหมาะสมกับสภาพอากาศก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่งั้นอาจทำให้เปลืองพื้นที่ในกระเป๋าอย่างเสียเปล่า
ซึ่งวิธีแพคกระเป๋าเดินทางสำหรับสวมใส่หน้าร้อนอาจไม่ยากเพราะเป็นสภาพอากาศเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณท่องเที่ยวในประเทศที่มีอากาศหนาวก็อาจเลือกยากสักหน่อยเพราะไม่ใช่สิ่งที่เราพบเจอเป็นประจำ Rent a Coat มีบริการเช่าชุดกันหนาวและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เสื้อโค้ทกันหนาว กางเกงกันหนาว หมวก รองเท้าลุยหิมะ ฯลฯ พร้อมคนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดชุดใส่ในแต่ละสภาพอากาศ และบริการซ่อมแซมซักชุดสำหรับอากาศหนาวให้กลับมาสวยเหมือนเดิม